ชาวฝรั่งเศสเหลือทน ประท้วงกลางปารีสนับแสน เหตุค่าครองชีพพุ่งสูง

ชาวฝรั่งเศสเหลือทน ประท้วงกลางปารีสนับแสน เหตุค่าครองชีพพุ่งสูง

ชาวฝรั่งเศสกว่า 1.4 แสนราย ชุมนุมประท้วงในกรุงปารีส เมืองหลวง ต่อต้านปัญหาค่าครองชีพพุ่งสูงจากปัญหาเงินเฟ้อ และต่อต้านปัญหาโลกร้อน วานนี้ 16 ตุลาคม 2565 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ประชาชนชาวฝรั่งเศสและผู้อาศัยในกรุงปารีส มากกว่า 1.4 แสนคน ได้ออกมาเดินขบวนชุมนุมประท้วง ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง จากการดำเนินนโยบายที่ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน วิกฤติเงินเฟ้อ ทำให้ชาวฝรั่งเศสต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น

การประท้วงครั้งนี้นับว่าเป็นการรวมตัวครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง 

ผิดจากการคาดการณ์ของตำรวจในตอนแรกที่ประเมิณไว้เพียงหลักหมื่นคน นายฌอง ลุก เมลองฌอง ผู้นำพรรคฝ่ายค้านซ้ายจัด นางแอนนี แอร์โนซ์ นักเขียนรางวัลโนเบลปี 2022 ก็ได้เข้าร่วมการเดินประท้วงในครั้งนี้ด้วย

นอกจากนี้ ในหลายส่วนโดยเฉพาะพนักงานในโรงกลั่นน้ำมันได้รวมตัวกันนัดหยุดงานประท้วงหลายสัปดาห์ เพื่อขอเพิ่มค่าแรง ต้องจับตาดูในวันพรุ่งนี้ 18 ต.ค. 2565 กลุ่มแรงงาน 4 กลุ่มในฝรั่งเศสได้นัดกันหยุดงานประท้วง เพื่อเรียกร้องขึ้นค่าแรงเช่นเดียวกัน

กาเบรียล อัตทาล รัฐมนตรีกระทรวงงบประมาณของฝรั่งเศส กล่าวว่า พันธมิตรฝ่ายซ้ายกำลังพยายามใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ปัจจุบันโดยมีการประท้วงอย่างต่อเนื่องที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของ EDF ของฝรั่งเศสและ โรงกลั่นน้ำมันของฝรั่งเศส

“การเดินขบวนในวันนี้เป็นการเดินขบวนของผู้สนับสนุนที่ต้องการปิดกั้นประเทศ” เขากล่าวในสถานีวิทยุฝรั่งเศส Europe 1

เกาหลีใต้ รายงาน คนไทยถูกจับคดียาเสพติด มากสุด แซงหน้าจีน เผยตลอด 5 ปีที่ผ่านมาคนไทยถูกรวบแล้วกว่า 3,000 คน สื่อในประเทศเกาหลีใต้รายงานเกี่ยวกับคดียาเสพติดว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในแต่ละปีประเทศเกาหลีใต้ได้จับกุมผู้ต้องหากว่าพันคน โดยพบว่าเป็นคนไทยถูกจับกุมคดียาเสพติดมากที่สุด และจำนวนมากกว่าชาวจีนที่เคยเป็นแชมป์ก่อนหน้านี้เกือบถึงสองเท่า

อ้างอิงจากรายงาน “การจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดภายในประเทศ” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า จำนวนผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่ถูกจับกุมในระหว่างปี 2560-2565 นั้น เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 8,887 มาเป็น 9,422 คน ในปี 2565

และหากตรวจสอบในปี 2565 นับตั้งแต่มกราคมถึงกันายนยน พบว่ามีชาวต่างชาติถูกจับกุม 1,243 คน คิดเป็นอัตราส่วนร้อยละ 13.2 ของชาวต่างชาติที่ถูกจับกุมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดย 6 อันดับแรก เป็นคนไทย 2,971 คน รองลงมาเป็นคนจีน 1,613 คน ตามด้วยคนเวียดนาม 677 คน , อุซเบกิสถาน 326 คน , คนรัสเซีย 273 คน ,คนอเมริกัน 165 คน

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ประเทศที่ถูกจับกุมข้อหายาเสพติดในประเทศเกาหลีใต้ เป็นชาวจีน ก่อนที่จำนวนชาวไทยที่ถูกจับในเกาหลีใต้จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและแซงหน้าชาวจีนไปในที่สุด

‘ปูติน’ เหี้ยม ส่งโดรนกามิกาเซ่ระเบิด ‘กรุงเคียฟ’ ทั้งที่เพิ่งบอกจะไม่ทำลายยูเครน

‘วลาดิมีร์ ปูติน’ เหี้ยม ส่งโดรนกามิกาเซ่ 4 ลำ ระเบิด ‘กรุงเคียฟ’ ทั้งที่เพิ่งบอกจะไม่ทำลายยูเครน เซเลนสกี้ ยืนยัน เช้าวันจันทร์บ้านเรือน อาคารในเมืองหลวงยูเครนโดนทำลายเสียหายหลายแห่ง ประชาชนต้องอพยพ สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน  ประธานาธิบดี รัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ผิดสัจจะ ส่งโดรนกามิกาเซ่ จำวน 4 ลำ ถล่มระเบิดใส่กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน ทั้งที่เมื่อวันศุกร์ เขาอ้างว่าไม่ได้ต้องการ “ทำลาย” ยูเครนและเห็นว่าไม่จำเป็นต้องส่งการโจมตีครั้งใหญ่ในอนาคตอันใกล้

ผู้นำรัสเซียแสดงความเห็นเมื่อวันศุกร์ที่งานแถลงข่าวในเมืองอัสตานา ประเทศคาซัคสถานหลังจากเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเครือจักรภพแห่งรัฐเอกราช องค์กรระหว่างรัฐบาลระดับภูมิภาคที่ประกอบด้วยอดีตชาติโซเวียต การประชุมสุดยอดและการบรรยายสรุป 30 นาทีของปูตินเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากที่รัสเซียได้ปล่อยการโจมตีด้วยขีปนาวุธหลายครั้งในพื้นที่พลเรือนของเมืองใหญ่ๆ ทั่วยูเครนเพื่อตอบโต้การทำลายสะพานสำคัญที่สร้างโดยเครมลิน

“ไม่ ผมต้องการให้ทุกคนเข้าใจ สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ไม่เป็นที่พอใจ พูดง่ายๆ หน่อย” ปูตินกล่าวเมื่อถูกถามว่าเขารู้สึกเสียใจกับการเปิดตัวการรุกรานทางทหารหรือไม่

นักข่าวคนเดียวกันถามปูตินต่อว่าเขาคิดว่ายูเครนจะสามารถดำรงอยู่ได้ในฐานะรัฐหลังสงครามครั้งนี้หรือไม่ ประธานาธิบดีรัสเซียก็สวนกลับว่า  “เราไม่ได้ตั้งเป้าหมายที่จะทำลายยูเครน ไม่ ไม่ใช่แน่นอน”

สำหรับการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของเขาในความขัดแย้งที่โหดร้ายปูตินอ้างว่า “ไม่จำเป็นต้องมีการโจมตีครั้งใหญ่ในตอนนี้” ในยูเครนเพราะเป้าหมายที่ต้องการส่วนใหญ่ของพวกเขาถูกโจมตี  “อย่างน้อยก็ในตอนนี้” เขากล่าวเสริม “สำหรับอนาคตเราจะได้เห็นกัน”

อย่างไรก็ตาม “อนาคต” ที่ปูตินอ้างถึงนั้นมาถึงอย่างรวดเร็ว โดยรัสเซียได้เริ่มการโจมตีหลายครั้งต่อเมืองหลวงเคียฟของยูเครนในเช้าวันจันทร์

สำนักงานของ ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนยืนยันเมื่อวันจันทร์ว่าเกิดระเบิดหลายครั้งในเมืองหลวงของประเทศ และเป้าหมายหนึ่งดูเหมือนจะเป็นสำนักงานใหญ่ของหน่วยงานด้านพลังงานแห่งชาติของยูเครน เจ้าหน้าที่เรียกอาวุธดังกล่าวว่า “โดรนกามิกาเซ่” ซึ่งพวกเขาเตือนว่าในที่สุดจะส่งผลย้อนกลับต่อกองกำลังรัสเซีย

แนะนำ : รีวิวซีรี่ย์เกาหลี | ลายสัก | รีวิวร้านอาหาร | โทรศัพท์มือถือ ราคาถูก | เรื่องย่อหนัง